ประสบการณ์ชีวิต….บทบาทหนึ่งกับการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การสอน MATH ที่ Korea Science Academy of KAIST

โอกาส… ไม่ได้มาง่าย ๆ แต่เมื่อผ่านมาแล้ว หลายคนเลือกที่จะเอื้อมมือคว้าไว้

โอกาส… ที่โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์มอบให้กับคุณครู ได้พัฒนาตนเองเช่นเดียวกับนักเรียน

โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์มีความร่วมมือทางวิชาการร่วมกับโรงเรียนวิทยาศาสตร์ชั้นนำในต่างประเทศทั่วโลก เปิดโอกาสให้คุณครูได้แสดงศักยภาพและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ทั้งด้านการจัดการเรียนการสอน และการนำเสนอผลงานทางวิชาการผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ โครงการแลกเปลี่ยนครูวิชาการกับ Korea Science Academy of KAIST สาธารณรัฐเกาหลี

วันนี้เราจะร่วมพูดคุยกับ “ดร. ธนัชกฤศ แก้วเต็ม” ครูสาขาวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาการคำนวณ ที่ได้คว้าโอกาสที่โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์มอบให้ ในฐานะครูแลกเปลี่ยนวิชาการ สอนวิชา Mathematics 2 และ Creative Basic Research ณ Korea Science Academy of KAIST (KSA) โรงเรียนวิทยาศาสตร์ชั้นนำของสาธารณรัฐเกาหลี เป็นเวลา 3 เดือน

ก้าวออกจาก Comfort Zone  ลองสิ่งใหม่ ๆ

ดร.ธนัชกฤศ แก้วเต็ม หรือ “อาจารย์ใหม่” ได้เปิดเผยถึงเหตุผลการตัดสินใจเข้าร่วมโครงการนี้ว่า

จากที่เคยเข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยนกับนักเรียนที่ KSA ตอนนั้นประทับใจมาก ทั้งการต้อนรับและการดูแล รวมถึงกิจกรรมที่เขาจัด เลยคิดว่าถ้ามีโอกาสก็อยากไปอีก แล้วอีกเหตุผลหนึ่งที่สำคัญเลยก็คือ อยากลองทำอะไรใหม่ๆ ดูบ้าง ก้าวออกจาก Comfort Zone ที่เราเคยสอน  เราใช้ภาษาไทยสอนตลอด ภาษาอังกฤษที่ไปเรียนก็แทบจะไม่ได้ใช้ ก็ลืม ๆ ไปบ้างแล้ว และอยากไปรู้ว่าที่โรงเรียนที่เขามีชื่อเสียงเนี่ย เขาสอนหรือว่าเขาดูแลเด็กยังไง ก็เลยตัดสินใจลองสมัครดูรอบนี้”

คณะผู้บริหาร Korea Science Academy of KAIST ให้การต้อนรับ

ปรับตัว… ปรับสไตล์การสอน

นอกจากการปรับตัวเรื่องอากาศที่หนาวมากให้ได้ การปรับเรื่องการภาษาในการสื่อสารก็สำคัญไม่แพ้กัน

“อาจารย์ที่เป็น Co-Teacher กัน เป็นอาจารย์จากฝรั่งเศส ก็จะสามารถใช้ภาษาอังกฤษได้ดี ส่วนการสื่อสารกับคนเกาหลี บางคนภาษาอังกฤษอาจจะไม่ได้ดีมาก แต่เราสามารถเข้าใจสิ่งที่อีกฝ่ายพูดได้

ส่วนการสอนที่นั่นจะต้องสอนร่วมกับอาจารย์อีกท่านหนึ่ง ก็จะมีสไตล์การสอนที่ต่างกัน เราก็ต้องพยายามทำความเข้าใจหรือเรียนรู้จากเขาก่อนว่าส่วนไหนที่ต้องเน้นเป็นพิเศษ และควรสอนนักเรียนให้เขียนเป็นประโยค อันนี้เป็นส่วนที่ต้องปรับตัวเป็นอย่างมาก”

เรียนรู้วัฒนธรรมที่แตกต่าง

การเคารพผู้อาวุโสและเรื่องการตรงต่อเวลา เป็นเรื่องสำคัญในวัฒนธรรมเกาหลี

“ที่เห็นหลักๆ เลยก็คือ เขาค่อนข้างที่จะเคารพคนที่มีอายุมากกว่า ที่นี่ทุกคนให้เกียรติกัน เพราะว่าอาจารย์ที่ KSA จบปริญญาเอกกันหมด ทุกคนสามารถแสดงความเห็นได้อย่างเต็มที่ และเขาจะมี Union ของครูที่ตั้งขึ้นมาเพื่อคอยตรวจสอบการทำงานของผู้บริหารด้วย ซึ่งก็จะช่วยดูแลปกป้องพวกครูด้วยกันเองได้

ทุกอย่างจะค่อนข้างตรงเวลา ในออฟฟิศจะแบ่งเป็นห้องเล็ก ๆ อยู่ 2 คนกับเพื่อนร่วมงานอีกคนนึง เวลาทำงานก็จะไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไหร่ ตั้งใจทำงานเต็มที่  อีกเหตุผลหนึ่งก็คือ เนื้อหาเยอะมาก แล้วเวลาเรียนค่อนข้างน้อย เพราะฉะนั้นทุกอย่างก็เลยต้องทำตามที่กำหนดไว้อย่างเป๊ะๆ ทำให้ปฏิสัมพันธ์ทางสังคมเขาค่อนข้างน้อย สไตล์การทำงานจะคล้าย ๆ กับอาจารย์ในมหาวิทยาลัย คือทุกคนมาทำงาน ถ้ามีโอกาสได้ไปสังสรรค์ร่วมกันก็จะไป แต่ว่าจะแบบไม่ได้สนิทชิดเชื้อกันมาก”

อาจารย์ใหม่ถ่ายภาพร่วมกับครูสาขาวิชาคณิตศาสตร์ ของ Korea Science Academy of KAIST (KSA)

การสอนที่ KSA สไตล์ครูมหาวิทยาลัย

สไตล์การทำงานที่ยืดหยุ่น ทำให้ได้มีช่วงเวลาหลังเลิกงานได้เดินทางไปศึกษาสภาพสังคมและวัฒนธรรม

“ปกติมีสอน 4 วันต่อสัปดาห์ จันทร์ถึงพฤหัสบดี ก็จะเป็นวิชา Mathematics 2 สอน 5 คาบต่อสัปดาห์ และอีกวิชาก็จะเป็น Creative Basic Research อันนี้สอน 1 วันต่อสัปดาห์ แต่ว่า 3 คาบรวด  จริง ๆ แล้วคาบแรก เขาจะเริ่ม 8:50 น แต่ว่าครูที่ไม่มีคาบแรกสามารถไปถึงโรงเรียนได้เกือบ ๆ 9.00 น. เลิกงานประมาณ 16.30 น. ถ้าใครไม่มีสอนสามารถกลับบ้านก่อนได้ รูปแบบคล้าย ๆ ชีวิตในมหาลัย อาจไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมกันเยอะ แต่ว่าเขาจะทำงานกันจริงจัง คือ เวลาทำงานก็ทำงาน ถ้าเวลาพักก็คุยเต็มที่

ตอนเย็นถ้ามีเวลาว่างก็อาจจะนั่งรถไปเที่ยวเอง ที่นี่สามารถขึ้นรถเมล์ รถไฟฟ้าใต้ดิน โดยใช้การ์ดใบเดียว ส่วนเสาร์-อาทิตย์ก็จะมีอาจารย์ที่นั่นคอยดูแลเรา พาไปเที่ยวตามที่ต่าง ๆ ในเมืองปูซาน เขาดูแลดีมากเลย”

ความน่าสนใจในการสอนเด็ก KSA

ด้วยปัจจัยเรื่องของภาษา จึงทำให้การสอนเน้นไปที่นักเรียนต่างชาติ แต่ก็ยังมีโอกาสสอนนักเรียนเกาหลีด้วยเช่นกัน ทำให้เห็นถึงความแตกต่างของการจัดการเรียนการสอนนักเรียนสองกลุ่ม

“การสอนจะเน้นนักเรียนต่างชาติเป็นหลัก ซึ่งนักเรียนกลุ่มนี้จะเป็นเด็กที่กล้าแสดงความเห็น แต่ว่าทักษะทางด้านคณิตศาสตร์อาจจะไม่ได้สูงเท่านักเรียนเกาหลี เพราะเขาจะมีเกณฑ์การคัดเลือกต่างกัน ข้อสอบหรือคำถามจะไม่ได้ยากเท่ากับของนักเรียนเกาหลี ทำให้เราต้องค่อย ๆ อธิบาย หรือบางครั้งก็ต้องพูดมากกว่า 1 ครั้ง อันนี้เป็นส่วนที่ยาก

ส่วนนักเรียนเกาหลีเก่งมากเลย เก่งจริงๆ อาจจะไม่ค่อยกล้าแสดงออกมากเพราะไม่ถนัดภาษาอังกฤษ แต่เขาพยายามพูด ยกตัวอย่างที่สอนในวิชา Creative Basic Research ส่วนใหญ่จะเป็นนักเรียนเกาหลี และเป็นนักเรียน ม.4 ที่ไม่ได้เก่งภาษาอังกฤษมาก แต่ว่าทุกครั้งที่ครูเขียนบทนิยามหรือทฤษฎีอะไรบนกระดาน เด็ก ๆ จะยกมือแล้วให้ข้อสังเกต ยกตัวอย่างประกอบ หรือว่าเชื่อมโยงกับทฤษฎีที่พูดถึงใน section ที่แล้วหรือครั้งที่แล้ว ทุกคนจะช่วยกัน พูดผิดพูดถูก พูดไม่เข้าใจ เพื่อนก็จะพยายามช่วย ไม่ได้มีการแซวว่าภาษาอังกฤษไม่ดีอะไรแบบนี้ เป็นบรรยากาศที่ดีมากเลย แต่ว่าบางครั้งก็จะมีเด็กบางคนที่พูดเก่งจนเพื่อนไม่ได้พูด เราก็ต้องบอกว่า เดี๋ยวเราลองฟังเพื่อนคนนี้ก่อนนะ หรืออาจจะลองสุ่มถามนักเรียนที่ไม่ค่อยได้พูด ว่ามีความเห็นกับทฤษฎีนี้ยังไง หรือมีไอเดียในการพิสูจน์ไหม อันนี้ก็จะเป็นความยาก”

กิจกรรมของ KSA ในช่วงสถานการณ์โควิด-19

ไม่ว่าโรงเรียนไหน ๆ ในช่วงสถานการณ์โควิด-19  การจัดกิจกรรมหลายอย่างอาจต้องถูกยกเลิกไป แต่บางกิจกรรมก็มีการปรับรูปแบบให้สามารถดำเนินการต่อได้ ซึ่งรวมถึงสองกิจกรรมที่ “อาจารย์ใหม่”ได้เข้าร่วมด้วย

“กิจกรรมแรกคือ Entrance Ceremony 2022 กิจกรรมต้อนรับนักเรียน ม.4 ที่เข้ามาใหม่ ภายในงานจะมีการกล่าวต้อนรับจาก ผอ.  มีคลิปวิดีโอจากอธิการบดีของ KAIST และผู้ว่าของเมืองปูซาน มาเปิดให้นักเรียนดู อันนี้ก็น่าสนใจ นักเรียนจะภูมิใจที่คนระดับนี้ยังมากล่าวต้อนรับเขา โดยตัวเองก็ได้มีโอกาสแนะนำตัวและกล่าวทักทายในพิธีการนี้ด้วย  

อาจารย์ใหม่ – ดร. ธนัชกฤศ แก้วเต็ม (ที่สองจากซ้าย) แนะนำตัวในงาน Entrance Ceremony 2022

อีกกิจกรรมหนึ่งก็จะเป็น Science Academic Festival (SAF) กิจกรรมการแข่งขันทักษะทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งจะจัดขึ้นช่วงก่อนปิด Midterm Break  เด็กที่นั่นจะได้ใช้ทักษะทุกอย่างที่ได้เรียนมา มาแข่งขันหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ โดยในปีนี้ เป็นการสร้างแบบจำลองการทำงานของมือจากหลอดและเส้นด้าย ตัวหลอดจะทำหน้าที่เป็นนิ้ว ส่วนเส้นด้ายก็ทำหน้าที่เป็นเส้นเอ็นที่คอยขยับนิ้ว เด็ก ๆ จะต้องเอามือที่สร้างไปหยิบลูกอมในถังหนึ่งครั้ง ใครได้จำนวนมากที่สุดก็จะชนะ โดยกิจกรรมนี้ ครูเขาจะมีคลิปวิดีโอสอนแต่คลิปไม่ได้ละเอียดถึงขนาดทำตามได้ เด็ก ๆ ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ว่า จะทำยังไงถึงจะหยิบได้ดีและหยิบได้เยอะ

นอกจากนี้ ยังมีการแข่งขันอีกอย่างหนึ่ง ที่เด็ก ๆ จะต้องรวมกลุ่มกันสร้างแบบจำลองของสถานที่สำคัญในประเทศต่าง ๆ จากอุปกรณ์ที่กำหนดให้พร้อมกับรูป 1 ใบ ให้สร้างตามรูปแบบนี้นะ แต่มีเงื่อนไขเพิ่มเติมมาให้ว่า เมื่อสร้างเสร็จแล้ว ตึกหรือสถูปนี้จะต้องคงทนอยู่ได้ เมื่อวางลูกบอลน้ำหนักเท่านี้ลงไป และสามารถคงทนอยู่ได้อย่างน้อยกี่นาที อันนี้ก็ดี ในงานนี้สมาชิกชุมนุมต่าง ๆ ในโรงเรียนจะมาแสดงผลงานของชุมนุมตัวเองด้วย”

ศักยภาพเด็ก MWIT VS KSA

“ศักยภาพด้านการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ได้อย่างรวดเร็ว เด็กโรงเรียนเรามีความสามารถใกล้เคียงกับเด็กเกาหลี แต่ว่าเด็กเกาหลีเขาจะตั้งใจเรียนมาก เพราะว่าต้องใช้คะแนนสอบหรือว่าเกรดเฉลี่ยไปยื่นเข้ามหาวิทยาลัย เขาสามารถเอาเกรดที่โรงเรียนไปสมัคร Korea Advanced Institute of Science and Technology (KAIST) ได้โดยที่ไม่ต้องสอบ National Test เหมือนเด็กคนอื่นในประเทศ เพราะฉะนั้นเขาเลยตั้งใจทำเกรดให้ดี ต้องแข่งขันกันเยอะ 

อีกอย่างหนึ่งคือ เขาจะมีเวลาให้เด็ก self-study จาก 19.30 น .ถึง 21.30 น. ของทุกวัน ก็เหมือนแกมบังคับว่าเด็ก ๆ จะต้องต้องอ่านหนังสือหรือว่าต้องทำการบ้านนะ อีกอย่างนึงที่ประทับใจ เด็กเกาหลีจะไม่หลับในคาบ ถ้าเกิดว่าเด็ก ๆ รู้สึกง่วง บริเวณหลังห้องจะมีโต๊ะสูง ๆ อยู่ เขาก็จะลุกขึ้นมาแล้วก็ไปยืนเรียน อันนี้ก็เป็นไอเดียที่ดีถ้าเกิดเราอยากใช้”

ความประทับใจที่มีต่อ KSA

การเปิดโอกาสให้เด็กได้เรียนรู้และพัฒนาสิ่งประดิษฐ์ตามความสนใจ ส่งผลให้นักเรียนเกิดความคิดสร้างสรรค์และเกิดกระบวนการพัฒนาทางความคิด ซึ่งสุดท้ายแล้วจะส่งผลต่อการพัฒนาประเทศต่อไป

“ที่นั่นเขาจะมีห้องที่ชื่อว่า Dream Design Center เป็นสถานที่รวบรวมอุปกรณ์ เทคโนโลยีทันสมัย และมีห้องประชุมที่บรรยากาศเป็นกันเอง เด็ก ๆ สามารถนัดคุยงาน นัดประชุม หรือว่าทดลองประดิษฐ์อะไรได้เลย  คิดว่าถ้าเกิดมีห้องหรือมีสถานที่อะไรแบบนี้ มันจะเปิดโอกาสให้เด็ก ๆ ใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการทำอะไรขึ้นมาสักอย่างนึงได้ไม่ยาก ไม่ต้องไปอยู่ในห้องที่ต้องมีคนคุมตลอด มันจำกัดความคิดสร้างสรรค์ อันนี้คือเข้าไปแล้วบรรยากาศเหมือนอยู่ที่บ้าน มีอุปกรณ์ มีของนู่นนี่นั่นให้ประกอบ ให้หยิบจับทำได้ตลอด  

พอในช่วงปิดเทอม เด็กเกาหลีจะมีโอกาสได้ไปฝึกทำวิจัยที่สถาบันทั้งในประเทศ อย่างเช่น ใน KAIST ใน Postech (Pohang University of Science and Technology) หรือแม้กระทั่งในต่างประเทศ เขาก็จะมีโครงการที่ทำร่วมกับสถาบันวิจัยในอเมริกา เกาหลี หรือเยอรมัน  แบบนี้ก็น่าสนใจ เด็ก ๆ เราก็น่าจะสามารถทำได้เหมือนกัน ถ้าโรงเรียนสามารถสร้างความร่วมมือกับสถาบันวิจัยอะไรแบบนี้ได้ ก็คิดว่าน่าจะมีประโยชน์กับเด็ก ๆ

เด็กเกาหลีจะถูกสอนให้ทำเพื่อประเทศชาติก่อนตัวเอง ถ้าตัวเราเก่ง ประเทศก็จะพัฒนาไปด้วย อันนี้คิดว่าเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ประเทศเกาหลีพัฒนาอย่างรวดเร็ว ถ้าเราสามารถสร้างเด็กให้คิดแบบนี้ได้ ก็น่าจะมีส่วนช่วยในการพัฒนาประเทศได้เยอะแยะเต็มไปหมด”

การจัดการเรียนการสอนวิชาคณิตศาสตร์ของ KSA

 “วิธีการสอนเค้าไม่ได้แปลกใหม่ เป็นเลคเชอร์ 4 ชั่วโมง อีก 1 ชั่วโมง ให้เด็กทำโจทย์แบบฝึกหัดด้วยตัวเอง อันนี้ก็เป็นประสบการณ์อย่างหนึ่งที่ต้องเอากลับมาคิดว่า สอนแบบนี้มันจะดีหรือไม่ดียังไง แต่สิ่งที่น่าสนใจก็คือ เนื้อหาที่เขาเอามาสอนเด็ก จะมีเนื้อหาที่นอกเหนือจากใน textbook ที่เราใช้ เขาจะมีบทประยุกต์ที่ทำให้เด็ก ๆ เห็นภาพ และมีวิธีการอธิบายที่ละเอียด เป็นขั้นเป็นตอน เด็ก ๆ ที่ไม่ได้ถนัดคณิตศาสตร์มากก็สามารถเข้าใจตามได้ อันนี้เป็นส่วนที่ดีที่เอากลับมาใช้ที่นี่เหมือนกัน คือ ไม่ได้มองแค่เฉพาะเด็กเก่งอย่างเดียว เราต้องมองถึงเด็กที่อาจจะมีความสามารถกลาง ๆ หรือน้อยด้วย ว่าควรจะอธิบายยังไง

อีกอย่างหนึ่งที่เขาเน้นมากคือ การเขียน ต้องเขียนอธิบายเหตุผลให้เป็นประโยค ไม่ใช่มีแต่ลิสต์สมการมา สมการแต่ละบรรทัดต้องเขียนว่าเพราะอะไรถึงเป็นแบบนี้ โดยเขียนในรูปแบบประโยค  ซึ่งจริง ๆ แล้วลักษณะการสอนแบบนี้ เคยถูกฝึกมาตั้งแต่ตอนที่เรียนที่อังกฤษ ตอนนั้นเป็น TA (Teaching Assistant) อยู่ เขาบอกว่า คุณคอยบอกให้เด็กที่อยู่ในคลาสให้เขียนเป็นประโยค ตอนนั้นก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องขนาดนั้น แต่พอมาสอนที่นี่ เขาก็เน้นจริง ๆ ด้วย เหตุผลที่ต้องเขียนแบบนี้ เพราะว่าเด็ก ๆ จะได้เรียบเรียงความคิดให้เป็นระบบ แล้วถึงจะถ่ายทอดออกมาให้เป็นประโยค ไม่อย่างนั้นแล้ว เด็ก ๆ จะไม่สามารอธิบายแนวคิดของตัวเองได้ เขาจะเขียนสลับไปสลับมา”

ประสบการณ์จาก KSA สู่การพัฒนาการสอน และการพัฒนานักเรียน MWIT

จากรูปแบบการสอนที่เน้นเขียนอธิบายสมการเป็นประโยค เป็นสิ่งที่อาจารย์ใหม่นำมาปรับใช้ในการสอนนักเรียน MWIT

“เดิมเด็ก ๆ ส่งการบ้านมา เขียนแบบทดเลขว่าทำอย่างนั้น ทำอย่างนี้ ลูกศรโยงไปมา ตอนนี้เวลาสอนก็เลยพยายามที่จะเขียนอธิบายให้เป็นประโยค เป็นขั้นเป็นตอน เพื่อที่เด็กเห็นเราเขียน เขาก็จะได้เขียนตาม ไม่งั้นเขาก็จะบอกว่าอาจารย์สอน อาจารย์ยังไม่เขียนเลย จะมาบังคับให้พวกหนูเขียนได้ยังไง เดี๋ยวรอดูผลตอบรับอีกที

และที่ KSA เวลาเขาออกข้อสอบ จะมีข้อสอบ 2 ส่วน ส่วนหนึ่งจะต้องส่งก่อน เป็นส่วนที่ใช้เวลาในการทำน้อย เป็นส่วนที่โจทย์บางข้อ เด็กอาจจะเคยเห็นและฝึกจนชำนาญมาบ้างแล้ว ประมาณว่าเห็นโจทย์ปุ๊บ แก้ได้เลยโดยใช้เวลาน้อย แบบนี้เป็นการฝึกทักษะที่จะต้องคิดเร็ว แก้ปัญหาเร็ว แล้วก็เตรียมตัวเป็นอย่างดี  เด็กจะต้องส่งส่วนนี้ก่อน แล้วจึงจะทำอีกส่วนนึง ซึ่งจะยากขึ้นอีกนิด ต้องใช้กระบวนการคิดวิเคราะห์และเขียนอธิบายเพิ่มขึ้น อันนี้ส่งทีหลัง อันนี้ก็อาจจะเป็นไอเดียที่ดีในการวัดผลเพราะว่าเราสามารถแยกการวัดผลออกไปเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งก็คือฝึกจนชำนาญ อีกส่วนหนึ่งก็คือต้องคิดเดี๋ยวนั้น ใช้ความคิดสร้างสรรค์ กระบวนการคิดวิเคราะห์ในปัญหาใหม่ ๆ ข้อสอบแบบนี้ก็น่าสนใจ แต่จะต้องปรึกษากับเพื่อน ๆ ในสาขาก่อน”

นอกจากเรื่องการสอนแล้ว การเปิดโลกทัศน์ของนักเรียนเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ตั้งใจไว้

“นำประสบการณ์ที่ได้เห็นมาเล่าให้เด็กฟังเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ ตัวอย่างเช่น ในคลาส Creative  Basic Research มีนักเรียนคนนึงที่เขาเขียนทุกอย่างที่ได้เรียนมาเกือบครึ่งเทอมบนกระดานข้างหลังห้อง แม้ว่าจะไม่ได้เกี่ยวกับคณิตศาสตร์แต่ว่าประทับใจมาก เขาเรียกมันว่า Wall of Biology ทุกอย่างที่เรียนมา ทั้งสูตรเคมี ทั้งรูปเซลล์ วาดและเขียนมือขึ้นมาในช่วงที่เขาว่างหรือช่วงที่พักเบรกเต็มกระดานไปหมด ดีมากจนเพื่อนจากห้องอื่นเข้ามาถ่ายรูปกับกระดานนี้ อันนี้ก็เป็นสิ่งดีที่ให้เด็กที่นี่เห็นว่า เด็กนักเรียนที่นู่นเขาใช้เวลาว่างในการทำอะไรแบบนี้ ส่วนตัวคิดว่าเป็นการสร้างแรงบันดาลใจที่ดีอย่างหนึ่ง

ตอนนี้กำลังเล็งไว้อีกอย่างว่า อยากพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์นักเรียนด้วยการตั้งคำถาม สังเกตจากการสอนหลาย ๆ ครั้ง เด็กเราจะไม่ค่อยถาม ก็เลยอยากให้เขาตั้งคำถามในเชิงของทำไมหรืออย่างไรในช่วงท้ายคาบเกี่ยวกับเรื่องที่เรียนไป อาจจะให้เขียนลงสมุดหรืออาจจะสุ่มถามบางคน เพราะว่าถ้าเราไม่ถามเลย เขาก็จะไม่ได้คิด แต่ถ้าเราบอกว่าไหนลองตั้งคำถามมา เขาก็จะเริ่มได้ฉุกคิดแล้วว่าจะต้องถามอะไรนะ แล้วที่เรียนไปวันนี้รู้เรื่องหรือเปล่า ถ้าเขาเรียนไม่รู้เรื่อง ยังไงเขาก็ถามอะไรแบบนี้ไม่ได้ อันนี้ก็น่าจะเป็นไอเดียที่ดีอีกอันนึง”

หลังจากที่เราได้พูดคุยกับ อาจารย์ใหม่ – ดร.ธนัชกฤศ แก้วเต็ม มาพักใหญ่ เชื่อว่าทุกคนมองเห็นรูปแบบการสอน การจัดการเรียนรู้ การใช้ชีวิตของนักเรียน และมุมมองการพัฒนานักเรียนของโรงเรียน Korea Science Academy of KAIST ไปพร้อม ๆ กับพวกเรา  หลายสิ่งหลายอย่างมีความน่าสนใจ และสามารถนำมาปรับใช้ในการพัฒนานักเรียนโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ได้

สุดท้ายแล้ว การหันกลับมามองโรงเรียนอื่น ๆ รอบตัวเรา และตั้งเป้าหมายสู่การพัฒนา จะทำให้โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์เดินไปพร้อม ๆ กับโรงเรียนวิทยาศาสตร์ชั้นนำในต่างประเทศ

We uses cookies to improve the functionality, performance, and effectiveness of our communications, detailed in our Privacy Policy. By continuing to use this site, or by clicking "Agree," you consent to the use of cookies.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ Settings

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น (Necessary Cookies)
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้ - Session Cookies Administered by: Us Purpose: These Cookies are essential to provide You with services available through the Website and to enable You to use some of its features. They help to authenticate users and prevent fraudulent use of user accounts. Without these Cookies, the services that You have asked for cannot be provided, and We only use these Cookies to provide You with those services.

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์ (Analytical Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้ - Persistent Cookies Administered by: Us Purpose: These Cookies allow us to remember choices You make when You use the Website, such as remembering your login details or language preference. The purpose of these Cookies is to provide You with a more personal experience and to avoid You having to re-enter your preferences every time You use the Website.

Save